วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กว่าจะมาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์

“โตขึ้น อยากเป็นอะไร” ประโยคนี้ทุกๆ คน คงได้ยินและโดนถามอยู่บ่อยครั้ง เหมือนกับข้าพเจ้าที่โตขึ้นอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ท่านผู้อ่านค่ะ ท่านเคยไหม ที่โตขึ้น อยากมีอาชีพเป็นตำรวจ ทหาร พยาบาล หมอ ฯลฯ แต่ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ฝันเอาไว้ ชีวิตของคนเรา มันไม่แน่นอนจริงๆ ตอนเด็ก ข้าพเจ้าไม่เคยคิดที่จะมาเป็นครูเลย แต่โชคชะตาวาสนาก็ทำให้ข้าพเจ้ามาเป็นครูจนได้ ทั้งที่ไม่ได้เรียนสายครูมาเลย ภาพพจน์ของครูนั้น ข้าพเจ้ามองว่า เป็นอาชีพที่ต่ำต้อย เงินเดือนก็น้อย ชาตินี้จะรวยกับเขาไหม สิ่งนี้มันเป็นคำถามในใจที่วนเวียนอยู่ในสมองตลอดเวลา
แต่แล้วในวันหนึ่งข้าพเจ้าก็ตัดสินใจมาเรียนทางด้านครู เรียนจบก็สอบบรรจุเหมือนครูทั่วๆไป ข้าพเจ้าสอบบรรจุติดที่กรุงเทพมหานคร โรงเรียนแห่งแรกที่สอนคือโรงเรียนวัดคลองเตย เป็นไงบ้างคะ ได้ยินชื่อโรงเรียน หลายคนคิดว่าต้องเป็นโรงเรียนในสลัมแน่นอน ใช่มันเป็นโรงเรียนที่อยู่ในชุมชนสลัม แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกที่ที่เป็นสลัมจะดูแย่ โรงเรียนวัดคลองเตยเป็นโรงเรียนที่น่าอยู่ มีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ อยู่ในเขตวัดคลองเตย นักเรียนที่เข้ามาเรียนจะเป็นเด็กในชุมชน โรงเรียนเปิดสอนในระดับชั้น อนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ไปสอนวันแรกรู้สึกแย่มาก แต่คนเราก็ต้องมีการปรับตัว เด็กที่กรุงเทพมหานครใช่ว่าจะดูดี จะรวยเสมอไป เด็กที่โรงเรียนวัดคลองเตยร้อยทั้งร้อยเป็นเด็กที่พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ถ้ามีเงินหน่อยพ่อแม่ก็ส่งลูกไปเรียนที่อื่น ปัญหาที่นี่มีทุกรูปแบบ โดยนักเรียนส่วนใหญ่จะขาดความรักความอบอุ่น ขาดการดูแลเอาใจใส่ พ่อแม่บางคนติดคุกเพราะขายยาบ้าก็มี ไม่ได้อยู่กับลูก ญาติๆ ก็เลี้ยงตามมีตามเกิด บางคนไม่มีพ่อ บางคนไม่มีแม่ พ่อแม่บางคนทำงานไม่มีเวลาให้ลูกๆ ตีสี่ไปทำงาน กลับมาก็ 2-3 ทุ่ม ไม่รู้ว่าลูกเป็นยังไงบ้าง ไม่เคยสอนการบ้าน ไม่รู้ว่าลูกเรียนอะไรบ้าง ภาระก็ตกมาที่ครู แต่มันก็ดีอย่างหนึ่ง มันเป็นการท้าทายว่าเราจะดำเนินการแก้ปัญหาอย่างไรกับเด็กๆ พวกนี้บ้าง เด็กบางคนก้าวร้าวไม่เคารพครูพ่อแม่ให้กินยาบ้าตั้งแต่อนุบาลให้เดินส่งยาบ้าก็มี
ข้าพเจ้าได้สอนวิชาคณิตศาสตร์ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ สอนวันแรกขอบอกว่ายากมาก ไม่มีเทคนิคในการสอน ไม่มีสื่อ ไม่มีประสบการณ์ในการสอน ไม่เข้าใจความเป็นเด็ก คิดว่าเด็กรู้แล้ว มาถึงห้องเรียนก็ใส่ความรู้เต็มที่ให้สมกับที่เรียนมาโดยลืมไปว่าเด็กยังไม่คุ้นเคยกับเรา วันแรกที่เข้าสอน ผิดหวังมากเพราะรู้เลยว่าเด็กไม่มีความสุข ไม่เข้าใจในเรื่องที่เรียน ไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์ ทำยังไงละทีนี้ ข้าพเจ้าก็เลยถามครูเก่าๆ ว่าเขามีเทคนิคอะไรบ้างในการสอนที่จะทำให้วิชาที่น่าเบื่ออย่างคณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่น่าสนใจ สนุกสำหรับเด็กๆ ครูบางคนบอกว่าขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ร้องเพลงสิ เด็กจะสนใจมาก แต่ขอบอกนะค่ะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก ข้าพเจ้าไม่มีพรสวรรค์เลยในการร้องเพลง พูดง่ายๆ คือร้องเพลงไม่เป็น เทคนิคนี้ก็เป็นอันจบไป ในที่สุดฟ้าก็มีตา ทำให้ข้าพเจ้าค้นพบเทคนิคในการสอนคณิตศาสตร์ ที่ทำให้เด็กนักเรียนของข้าพเจ้ารู้สึกที่อยากจะเรียนคณิตศาสตร์ขึ้นมาบ้าง นั่นก็คือ การหาเกมคณิตศาสตร์ต่างๆ เข้ามาบูรณาการกับการเรียน เด็กๆจะชอบมาก ไม่ว่าจะเป็นเกมบิงโก ที่ต้องบวก ลบ คูณ หาร ก่อนที่จะวางเบี้ย เกมปริศนาอักษรไขว้ ฯลฯ โชคดีที่โรงเรียนในกรุงเทพมหานครมีงบประมาณในเรื่องสื่อการเรียนการสอน แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้จะได้สื่อที่ดีๆ เพียงพอกับความต้องการทุกๆ ปี
ในขณะนั้นข้าพเจ้ามีความสุขในการสอนคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนวัดคลองเตยมาก แต่ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถที่อยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ไปตลอดชีวิตได้ เนื่องจากเป็นคนต่างจังหวัดมีภาระหน้าที่ต้องกลับบ้าน ข้าพเจ้าจึงจำใจย้ายจากโรงเรียนวัดคลองเตย กลับภูมิลำเนาเดิมที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้เริ่มต้นในการสอนคณิตศาสตร์อีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่ใช่ระดับประถมศึกษา แต่เป็นระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ซึ่งมีเนื้อหาสาระในการสอนคณิตศาสตร์อีกแบบหนึ่ง จะเป็นยังไงต่อไปก็ขอให้ท่านผู้อ่านเอาใจช่วยข้าพเจ้าละกัน เพราะคิดว่ามันเป็นการเริ่มต้นของชีวิต ในอีกรูปแบบหนึ่ง


โดยนางพัชรีวรรณ จำเริญนุสิทธิ เลขที่ 28

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น